แชร์ข่าว
“โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม” ชี้แจงข่าวเรื่อง ทิ้งแม่ บอกคนนอกไม่รู้เลยเข้าใจผิด ตนดูแลแม่เป็นอย่างดีมาตลอด เพิ่งไปกราบเท้าเมื่อวันแม่ที่ผ่านมา เผยเคยไปรับแม่มาอยู่ด้วยแล้ว แต่แม่กับหนีไปนอนวัด
เมื่อวันที่6 ต.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม นักแสดงตลกวัย 50 ปี พร้อมนางสมญา ก้องภพฐิตารีย์ ภรรยา วัย 52 ปี และ เฮงเฮง เชิญยิ้ม ลูกชายคนที่ 3 ได้เปิดใจถึงกรณีที่มีคนนำรูปของ “คุณยายอ้อย” หญิงชราคนหนึ่ง ซึ่งมีแผลเหวอะหวะและมีมดขึ้นเต็มไปหมดมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ โดยระบุว่า หญิงชราดังกล่าวเป็นแม่ของโป๊งเหน่ง ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวทิ้งแม่มาแล้วครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม กล่าวว่า จริง ๆ ตนอยากขอบคุณคนที่เอารูปแม่ตนไปขอความช่วยเหลือ แต่คนที่เขาไม่รู้ตื้นลึกหนาบางว่าเรื่องราวเป็นยังไง ก็ส่งไลน์มาด่าตนและครอบครัว ตนไม่โกรธ เพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ เนื่องจากตนเป็นคนของสังคม และก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีเกิดขึ้น เลยไม่แปลกที่คนจะด่าทอ
ส่วนเรื่องราวข้อเท็จจริงนั้น โป๊งเหน่ง เล่าว่า หลังจากที่ตนรับแม่ไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน อยู่ได้เพียงเดือนกว่า ๆ แม่ก็รับไม่ได้ เนื่องจากเหงาและไม่มีความผูกพันกับครอบครัว และแม่ก็ไม่เคยเลี้ยงลูก ๆ ของตนด้วย หลังจากนั้นแม่บอกว่าเบื่อและก็หนีไป ตอนแรกตนก็ไปตามที่วัดพระยาสุเรนทร์ซึ่งเป็นวัดเดิมที่แม่เคยหนีไปอยู่ แต่พอไปตาม แม่ของตนก็ไม่ยอมกลับ เลยไปปรึกษาเจ้าอาวาสวัด หลวงพ่อก็บอกว่าถ้าแม่อยากอยู่เดี๋ยวหลวงพ่อจัดการเอง แต่ตอนนั้นตนถามกลับว่าจะดีเหรอ พาแม่ไปอยู่บ้านพักคนชราดีกว่าไหม ซึ่งก็โทรติดต่อไปที่บ้านบางแค และนำรถตู้มารับอย่างดี สรุปแม่ก็ไม่ไป ในเมื่อแม่ไม่ไป หลวงพ่อก็บอกให้ตนไปทำงาน เดี๋ยวทางนี้หลวงพ่อดูแลเอง
โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม กล่าวต่อว่า แม่ตนอยู่ที่วัดได้ประมาณ 6-7 เดือน ระหว่างนั้นลูก ๆ ก็ผลัดกันไปเยี่ยมแม่ตลอด และล่าสุดเมื่อวันแม่ที่ผ่านมา ตนกับภรรยายังชวนกันไปกราบเท้าแม่และเอานำล้างเท้ามาล้างหน้าล้างหัวอยู่เลย ดังนั้นเรื่องที่บอกว่าตนทิ้งแม่นั้นไม่เป็นความจริง
สำหรับรูปของแม่ตนที่ถูกโพสต์ในเฟซบุ๊กนั้น ดูน่ากลัวมาก บอกด้วยว่าแม่ของตนเน่าแล้วมดก็ขึ้นเต็มตัว ตนก็ได้ไปสืบจนรู้มาว่า ก่อนหน้านี้แม่ล้มในห้องน้ำต้องผ่าเข่า แต่ที่โรงพยาบาลไม่ยอมผ่าให้ เนื่องจากต้องมีญาติเซ็นรองรับ ซึ่งตอนนั้นตนถ่ายละคนอยู่ปากช่อง 3 วัน สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยดี แต่หลังจากนั้นก็ได้ทราบเรื่องจากภรรยาแล้ว เพราะหลวงพ่อโทรมาบอก ทางหลวงพ่อเลยตัดสินใจด้วยตัวเอง เพราะสนิทกับตน จึงบอกว่าให้ผ่าตัดเข่าแม่ตนไปเลย เกิดอะไรขึ้นเดี๋ยวหลวงพ่อรับผิดชอบเอง และหลังจากผ่าตัดเข่าเสร็จก็ต้องมาพักฟื้นที่วัด ระหว่างนั้นหลวงพ่อก็หาคนมาดูแล ชื่อ แอน เป็นหลานของหลวงพ่อ
ส่วนแผลที่เห็นนั้น โป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม เล่าว่า แม่แก่แล้วพอนอนมาก ๆ จึงเกิดแผลกดทับ หลวงพ่อจึงเรียกไปคุยกับเจ้าหน้าที่อนามัยที่อยู่ข้าง ๆ ว่าให้ช่วยมาดูแลทำแผลให้แม่ตนหน่อย แต่ตนก็ไม่เข้าใจว่าเขาชอบหรือเกลียดตน เพราะเขาโทรมาด่าภรรยาตน บอกว่าแม่คุณทำไมไม่ดูแล ต่อมาน้องแอนก็บอกว่ามีคนมาถ่ายรูปแม่ตนไป ลองนึกภาพคนที่เพิ่งผ่าตัดแล้วยังมีแผลสดอยู่ ถ้าล้างแผลแล้วพันแผลก็ไม่น่ากลัวขนาดนั้น แต่คนนั้นเขากลับแหกแผลออก พร้อมถ่ายรูปแผลแบบเหวอะ ๆ ลงเฟซบุ๊ก ส่วนเรื่องที่คนสงสัยว่าทำไมมดขึ้นเยอะ จะไม่ขึ้นได้ยังไงเพราะไม่รู้มีใครที่ไหนเอาน้ำผึ้งผสมกับวาสลีนมาทา เพราะเชื่อว่าแผลจะได้ไม่แข็ง พอทาน้ำผึ้งมดก็ย่อมมาขึ้นเป็นธรรมดา พอมดขึ้นก็มาถ่ายรูปแล้วเอาไปลงเฟซบุ๊กอีก
อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ตนก็ไปหาแม่ที่วัดตอน 2 ทุ่ม แต่แม่หลับแล้ว หลวงพ่อก็คุยกับตนบอกว่าสิ่งที่สำคัญคือต้องมีคนดูแลแม่ช่วงกลางคืน เพราะน้องแอนเขามีครอบครัว ดูแลให้ได้แค่กลางวันเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ทางหลวงพ่อได้จัดหาคนมาดูแลให้แล้ว ค่าจ้างเดือนละ 1 หมื่นบาท และตนเป็นคนจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เมื่อถามว่าตอนนี้แม่ของโป๊งเหน่งอยู่ไหน เขากล่าวว่า ตอนนี้แม่มีกรมพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์รับไปรักษาตัวแล้ว ซึ่งคนในกรมนี้เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ โดยรับไปรักษาที่โรงพยาบาลนพรัตน์ ถามว่าตนรู้สึกแย่หรือไม่ที่ครอบครัวถูกโจมตี ยอมรับว่าตอนแรกเหวอ ใจลอย ทำไมเกิดขึ้นกับตนอีกแล้ว ที่ผ่านมาไม่ใช่ตนไม่ดูแลแม่ แต่ตนต้องทำงานทุกอย่างเลี้ยงลูกของตัวเอง 6 คน และตลอดเวลาตนก็ไปเยี่ยมแม่ตลอด ไม่ได้ทิ้งอย่างที่ถูกกล่าวหา อยากให้ทุกคนเป็นกลางด้วย เพราะชีวิตของตนบอบช้ำมา วันก่อนคนเมาก็มาด่าตนว่าลูกเนรคุณ เดินตลาดพ่อค้าแม่ค้าก็ด่า ตนขอยืนยันเลยว่าไม่ได้ทิ้งแม่ ถ้าตนโกหกก็ขอให้ไปถามหลวงพ่อหรือน้องแอน ตอนนี้ตนก็พยายามรับแม่มาอยู่ที่บ้าน แต่แม่ก็ไม่ยอมมา และหลวงพ่อก็ไม่อยากให้ไปอยู่ที่อื่น ซึ่งหลวงพ่อดูแลแม่ตนดีมาก แม่บอกว่าอยากได้โทรศัพท์กับโทรทัศน์ หลวงพ่อก็ซื้อให้ ต้องบอกเลยว่าแม่อยู่ที่วัดสะดวกสบายมาก
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น คงเป็นเพราะบางคนเขาไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง เลยคิดกับตนในแง่ลบ ตนสงสารภรรยามากที่ถูกกล่าวหาว่าไล่แม่ตนออกจากบ้าน ความจริงมันไม่ใช่ ตนไม่ได้ทิ้งแม่
ขณะเดียวกัน นางสมญา ภรรยา ก็เผยว่า หลายคนบอกว่าตนมีปัญหากับแม่สามี จริง ๆ ไม่มีเลย เรื่องที่หลายคนเข้าใจผิดว่าตนเอาเงินฟาดหัวพยาบาล ความจริงคือ พยาบาลโทรมาถามตนว่า ตอนนี้ไม่มีใครดูแลแม่เลย ตนเลยถามกลับไปว่าถ้าต้องการคนดูแลต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไรเท่านั้นเอง แต่คนกลับไปตีความอย่างนั้น ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่าไม่ได้เกลียดแม่สามีอย่างแน่นอน
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
โพสเมื่อ วันที่17 มิถุนายน 2020
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็นสำหรับเรื่องนี้.....
แสดงความคิดเห็น